Ronaldinho สุดยอดผู้เล่นทักษะลีลาระดับโลกและความสำเร็จในอาชีพ
รอนัลดินโญ (Ronaldinho) ชื่อเต็มคือ โรนัลโด เดอ เอสซอ โซซา เด อาสุนาเรีย (Ronaldo de Assis Moreira) เกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ค.ศ. 1980 ในเมืองพอร์โตอาเลกรี รัฐริโอ กรงเบอร์ตัล ประเทศบราซิล โดยเป็นนักฟุตบอลชื่อดังที่กลายเป็นตำแหน่งกองกลาง (attacking midfielder) และชอบจะเล่นในด้านซ้ายของสนาม ในช่วงเวลาเขาอยู่ในยุคเด็ก
รอนัลดินโญเริ่มต้นการเล่นฟุตบอลตั้งแต่วัยเด็กๆ และได้เข้าร่วมทีมชมรมของเมืองพอร์โตอาเลกรี ตามมาตั้งแต่นั้นเขาก็สร้างสิ่งที่น่าทึ่งในวงการฟุตบอล ซึ่งทำให้เขาเป็นที่รู้จักและคว้ารางวัลหลายรางวัลในระหว่างการแข่งขัน
ในปี ค.ศ. 2001 รอนัลดินโญได้รับโอกาสที่จะเล่นให้กับทีมบาร์เซโลน่า (FC Barcelona) หลังจากที่เขาเล่นให้กับทีมประเทศบราซิล ก่อนที่จะย้ายมาเล่นในศูนย์กีฬาของกลุ่มบาร์เซโลน่า ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 2003-2008 รอนัลดินโญกลายเป็นนักฟุตบอลที่คนในยุคนั้นต้องทึ่งทอง กับทักษะด้านเทคนิคเด่นในการดัดผมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของเขา ในช่วงเวลานั้นเขาก็คว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยม FIFA World Player of the Year 2 ครั้ง ในปี ค.ศ. 2004 และ 2005
ในปี ค.ศ. 2008 รอนัลดินโญตัดสินใจย้ายทีมไปเล่นให้กับทีมเอซี มิลาน ในลีกซีรีอาของอิตาลี และกลายเป็นตำแหน่งกองกลางกองหน้าที่โดดเด่นในทีม ในช่วงเวลาที่เล่นให้กับเอซี มิลาน เขาก็ได้ชิงเหรียญรางวัลซีรีอา 1 ครั้ง และก็ชนะการแข่งขัน UEFA Champions League 1 ครั้ง ในปี ค.ศ. 2010
หลังจากออกจากเอซี มิลาน รอนัลดินโญได้เล่นให้กับทีมที่หลายทีม ทั้งในบราซิล และก็ในเมืองอื่น ๆ แต่ระหว่างปี ค.ศ. 2011-2015 เขากลายเป็นนักฟุตบอลที่ให้กับแอทเลติโกมาดริด ซึ่งเป็นทีมที่ทำให้เขาคว้ารางวัลสูงสุดในลีกสเปน และก็ชนะการแข่งขัน UEFA Champions League 1 ครั้งในปี ค.ศ. 2013
หลังจากการแข่งขันให้กับทีมอเมริกาในยุคตอนท้ายของการเล่นเกม รอนัลดินโญกลายเป็นนักฟุตบอลที่ได้รับการรับรองในสากล และก็มีสิทธิ์ในการแข่งขันให้กับทีมบราซิล ในปี ค.ศ. 2012 ทำให้เขาเล่นในการแข่งขัน Piala Dunia 2013
ในปี ค.ศ. 2019 โรนัลดินโญ (Ronaldinho) ต้องเผชิญกับปัญหาทางกฎหมายในประเทศพารากวัย ซึ่งเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการใช้หนังสือเดินทางปลอม เมื่อเขาได้เดินทางไปยังพารากวัยเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมการส่งเสริมกีฬาและการรับรางวัล
ในวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 2019 โรนัลดินโญถูกควบคุมที่โรงแรมที่เขาพักอยู่ และได้ถูกเปิดใบสำหรับประเทศเมื่อทำให้เจ้าหน้าที่พบว่ามีหนังสือเดินทางปลอมที่เขาใช้เข้าเมืองพารากวัย ในเวลาต่อมา เขาถูกกักขังในเมืองพารากวัยและอยู่ในระหว่างการสอบสวนจากเจ้าหน้าที่
ในวันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 2019 ศาลในเมืองพารากวัยเห็นชอบให้ปล่อยเงินประกันในขนาดใหญ่เพื่อปล่อยโรนัลดินโญ และเหตุการณ์นี้ส่งผลให้เขากลับไปยังประเทศบราซิล
ต่อมาในปี ค.ศ. 2020 โรนัลดินโญถูกต้องหากลับไปยังพารากวัยเพื่อเข้ารับคำพิพากษาในคดีเกี่ยวกับหนังสือเดินทางปลอม และในวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 2020 เขาถูกตัดสินให้ขังคุกในเมืองพารากวัย เป็นเวลา 6 เดือน
หลังจากประสบความท้าทายในการควบคุมที่ต้องพึ่งพาคำสนาม โรนัลดินโญได้รับอนุญาตให้กลับประเทศบราซิลในเดือนอิสระของเขา ในวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 2020
คดีที่เกี่ยวข้องกับการใช้หนังสือเดินทางปลอมของโรนัลดินโญทำให้สังคมภายนอกได้ลามข่าวและกระทำการวิพากษ์วิจารณ์ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่และความเท็จจริงในสถานะของประเทศพารากวัย ก่อให้เกิดความสั่นสะเทือนในวงการกีฬาและร่วมมือของโรนัลดินโญกับบริษัทหลายแห่งย่อมถูกยุติหรือยุติ อย่างไรก็ตาม เขายังคงเป็นสัญญานให้กับนักกีฬาและผู้ติดตามในทุกที่ในระหว่างภาพสัยของการแข่งขันและความชื่นชมด้านกีฬาของเขาที่ยิ่งใหญ่
Ronaldinho และ Messi สมัยเล่นด้วยกัน
Ronaldinho และ Lionel Messi เป็นสองนักฟุตบอลที่เคยเล่นด้วยกันในทีมบาร์เซโลน่า (FC Barcelona) ในช่วงปี ค.ศ. 2004 ถึง 2008 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทั้งคู่อยู่ในยุคสมัยรุ่นในทีมเดียวกัน การร่วมงานของทั้งสองนักฟุตบอลได้ก่อให้เกิดเป็นเรื่องที่น่าประทับใจในวงการฟุตบอล โดยเฉพาะในช่วงที่ทีมบาร์เซโลน่าสร้างความสำเร็จที่เกิดขึ้นระหว่างกีฬาทั้งสองนี้
Ronaldinho เป็นนักฟุตบอลที่มีความสามารถทางเทคนิคอย่างน่าทึ่ง โดยเขามีการควบคุมบอลที่ยอดเยี่ยม การทำซาวด์ที่น่าตื่นเต้นและการกระทำที่น่าประทับใจในสนาม ในช่วงเวลาที่เล่นให้กับบาร์เซโลน่า เขาคือตัวนำและเป็นตัวแทนอย่างดีที่สุดในทีม ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างสภาพคล่องทางการเล่นให้กับเขาอย่างมาก
ในขณะที่ Messi เป็นนักฟุตบอลที่มีความสามารถทางเทคนิคและความเร่งด้วยความเร่งที่น่าทึ่ง และการบริหารบอลที่โดดเด่น แม้ว่าในช่วงนั้น Messi ยังเป็นนักฟุตบอลรุ่นใหม่ที่กำลังเติบโต แต่เขาได้แสดงความสามารถของเขาในระดับที่น่าประทับใจและก่อให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ Ronaldinho ที่ใกล้ชิด
การสองครั้งที่ Ronaldinho ได้รับรางวัล FIFA World Player of the Year ในปี ค.ศ. 2004 และ 2005 แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเขาในทีมบาร์เซโลน่า และ Messi ก็กลายเป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงอย่างเต็มที่ในอนาคต
ทั้ง Ronaldinho และ Messi สร้างความท้าทายและความสนุกในการเล่นให้กับผู้ชมและคู่แข่ง สองคนเคยมีโอกาสเล่นด้วยกันในอัตราต่อสู้ที่สำคัญ และความร่วมมือระหว่างทั้งสองนักฟุตบอลนี้ได้เปิดเผยถึงความคิดเห็นที่น่าประทับใจในการเล่นบอล ซึ่งก่อให้เกิดการสร้างสรรค์ในสนามให้กับทั้งสองนักฟุตบอล